ราคาน้ำมันพุ่งหลังเซอร์ไพรส์ลดกำลังการผลิต
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังจากผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกหลายรายประกาศลดกำลังการผลิตอย่างน่าประหลาดใจ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ซื้อขายใกล้ $85 ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 6%นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้ค่าครองชีพลดลงได้ยากขึ้น
แต่กลุ่มยานยนต์ RAC กล่าวว่าไม่คาดว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้น เว้นแต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะคงอยู่เป็นเวลาหลายวัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นหลังจากซาอุดีอาระเบีย อิรัก และหลายรัฐในอ่าวอาหรับกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขากำลังลดการผลิตน้ำมันมากกว่าหนึ่งล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ รัสเซียกล่าวว่าจะขยายเวลาลดการผลิตครึ่งล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีนี้ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานอย่าง BP และ Shell เห็นราคาหุ้นของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นในวันจันทร์ โดยทั้งคู่พุ่งขึ้นมากกว่า 4%
ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเมื่อรัสเซียบุกยูเครน แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ในระดับที่เห็นก่อนความขัดแย้งจะเริ่มต้นขึ้นอย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ
ได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตเพิ่มผลผลิตเพื่อกดราคาพลังงานให้ต่ำลง โฆษกของสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า “เราไม่คิดว่าการปรับลดกำลังเป็นสิ่งที่ควรทำในขณะนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด และเราได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว”
ราคาพลังงานและเชื้อเพลิงที่สูงได้ช่วยผลักดันอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นอัตราที่ราคาสูงขึ้นสร้างแรงกดดันต่อการเงินของครัวเรือนจำนวนมาก
Yael Selfin หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ KPMG เตือนว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจทำให้การต่อสู้เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นไม่จำเป็นต้องทำให้ค่าไฟในครัวเรือนสูงขึ้นเสมอไป“เพดานราคาพลังงานที่ครัวเรือนได้รับประโยชน์ได้รับการพิจารณาแล้วโดยใช้การคาดการณ์ของตลาดก่อนหน้านี้” เธอกล่าว “นอกจากนี้ เมื่อคุณดูการใช้พลังงานในครัวเรือน ก็มักจะใช้พลังงานจากก๊าซมากกว่าน้ำมัน”
นอกจากนี้ยังมีความกลัวว่าอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งหากราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้นRAC กล่าวว่าไม่คาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในระยะสั้น
“การเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของต้นทุนน้ำมันไม่ควรส่งผลให้ราคาน้ำมันเฉลี่ยของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เว้นแต่แน่นอนว่าราคาบาร์เรลจะสูงขึ้นเป็นเวลาหลายวัน” ไซมอน วิลเลียมส์ โฆษกเชื้อเพลิง RAC กล่าวกับบีบีซี
อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ oeuf-au-plat.com อัพเดตทุกสัปดาห์
