ย้อนกลับไปในปี 2015 ผู้ชมภาพยนตร์ทุกหนแห่งได้รับการแนะนำให้รู้จักกับภาพยนตร์แอ็กชันสายลับของผู้กำกับ Matthew Vaughan Kingsman : The Secret Service

ดัดแปลงจากนิยายภาพ Kingsman โดย Mark Millar (นักเขียน) และ Dave Gibbons (ศิลปิน) ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งนำแสดงโดย Taron Egerton, Colin Firth, Mark Strong, Samuel L. Jackson และ Michael Caine ติดตามการเดินทางของ Gary วัยหนุ่มที่มีปัญหา Eggsy” เออร์วินขณะที่เขาได้รับคัดเลือกเข้าสู่ Kingsman

ซึ่งเป็นองค์กรสายลับของอังกฤษ และเข้าร่วมภารกิจเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามระดับโลกจากริชมอนด์ วาเลนไทน์ มหาเศรษฐีผู้ชั่วร้าย Kingsman: The Secret Serviceมาจากเนื้อหาในหนังสือการ์ตูนและทิศทางโดยรวมของวอห์น ถูกนำเสนอเป็นเสียดสีสายลับ 007 โดยนำเสนอภาพยนตร์สารคดีเชิงภาพแอ็กชั่นสอดแนมที่มีความรุนแรงอย่างมีสไตล์ ส่วนผสมนี้ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่แปลก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับประโยชน์

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และนักชมภาพยนตร์ทั่วไปว่า Kingsman: The Secret Service ทำรายได้กว่า 400 ล้านเหรียญทั่วโลก (หรือ 411 ล้านเหรียญสหรัฐ) เทียบกับงบประมาณการผลิตที่ 94 ล้านเหรียญ . ด้วยความสำเร็จ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภาคต่อจะตามมาในไม่ช้า โดย Kingsman: The Golden Circle จะออกฉายในอีกสองปีต่อมาในปี 2017 โดยวอห์นกลับมารับหน้าที่กำกับ เช่นเดียวกับ Egerton, Firth และ Strong ที่กลับมารับบทเดิมจากภาพยนตร์เรื่องแรกวงกลมทองคำพบการผจญภัยสายลับอีกครั้งโดยหน่วยงาน Kingsman ร่วมมือกับรัฐบุรุษคู่หูชาวอเมริกัน หลังจากที่โลกถูกจับตัวประกันโดย Poppy Addams (Julianne Moore) และอาณาจักรการค้ายาของเธอ…. วงกลมทองคำ.

ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องเผชิญกับความคิดและการวิจารณ์ที่หลากหลาย ผลสืบเนื่องได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความสำเร็จของบ็อกซ์ออฟฟิศ กวาดรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ เทียบกับงบประมาณการผลิต 104 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ สี่ปีหลังจากการเปิดตัวของKingsman: The Golden Circle , 20 th Century Fox (ภายใต้การนำแบนเนอร์ของ Walt Disney Studio ออกฉาย) และผู้กำกับ Matthew Vaughan ได้นำเสนอรายการที่สามในแฟรนไชส์ภาพยนตร์พร้อมภาคก่อนชื่อThe King’s Man. การผจญภัยในพรีเควลนี้รับประกันความรวดเร็วในการเห็นว่าองค์กร Kingsman เริ่มต้นอย่างไรหรือเป็นเพียงการหลบหนีที่ฉูดฉาด แต่ยังน่าเบื่อที่เล่น “เร็วและหลวมเกินไป” กับประวัติศาสตร์และความแตกต่างของภาพยนตร์?

ยุคแห่งอ็อกซ์ฟอร์ด ออร์ลันโด (ราล์ฟ ไฟนส์) เป็นคนที่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกผ่านความโหดร้ายและความรุนแรง

แต่โศกนาฏกรรมส่วนตัวครั้งใหญ่ของเขาคือการเสียภรรยา สัญญากับคนรักของเขาว่าคอนราด ลูกชายของพวกเขา (แฮร์ริส ดิกคินสัน) ) จะไม่มีวันได้เห็นหรือมีส่วนร่วมในธรรมชาติของสงครามที่ดุร้าย ออร์ลันโดพยายามทำตามคำสาบานต่อภรรยาผู้ล่วงลับด้วยความสยดสยองเมื่อเพื่อนของเขา อาร์ชดยุคเฟอร์ดินานด์ ถูกลอบสังหาร ผลักยุโรปเข้าสู่สงครามแย่งชิง กับร่างลึกลับที่เรียกว่า “คนเลี้ยงแกะ” ดึงเชือกเป็นความตายและความโกลาหล เกิดขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน ร่วมด้วยหน่วยสืบราชการลับที่ใกล้ชิด Polly (Gemma Arteton) และ Shola (Djimon Hounsou) ออร์แลนโดได้รับคำสั่งจากเครือข่ายลับของสายลับในบทบาทบริการในประเทศ พยายามรวบรวมสิ่งที่เกิดขึ้นและวิธีที่ผู้นำโลกต่างๆ ถูกบิดเบือน

• การยืมหลายบรรทัดในการทบทวนของฉันสำหรับ The Kingsman: The Golden Circle ฉันจำได้ว่าเมื่อ Kingsman: The Secret Service ออกมาเมื่อฉันไปดูในโรงภาพยนตร์และหวังว่ามันจะดี โชคดีที่มันเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เหล่านั้นที่แคมเปญการตลาดได้รับสิทธิ์ในขณะที่ฉันพบภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างความแตกแยกให้กับประเภทสายลับด้วยสัมผัสแห่งสุนทรียศาสตร์ของวอห์นในการกระทำที่เก๋ไก๋ และความรุนแรงในนิยายภาพ โดยพื้นฐานแล้วฉันเรียกมันว่า “James Bond + Kick Ass = Kingsman” ซึ่งหลายคนเห็นด้วย

โดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงของการ์ตูนที่มากเกินไปและบางครั้ง Kingsman: The Secret Service ได้สร้างชื่อเสียงให้กับภาพยนตร์ปี 2015 อย่างแน่นอนในปีนั้น โดยได้ค้นพบความแปลกใหม่และความสนุกสนานในประเภทสายลับสุดคลาสสิก รวมถึงนักแสดงหนุ่มที่มีความสามารถ (ทารอน เอเกอร์ตัน) ในบทนำของ Eggsy นักแสดงสมทบชาวอังกฤษที่แข็งแกร่ง (Colin Firth, Mark สตรอง ไมเคิล เคน) และเหล่าวายร้ายที่น่าจดจำ (ซามูเอล แอล. แจ็คสันและโซเฟีย บูเทลลา) ไม่กี่ปีต่อมา Kingsman: The Golden Circle

• ออกมาและฉันก็ชอบมันจริงๆ มันไม่ได้ทำลายพื้นใหม่ใด ๆ ในแง่ของการเล่าเรื่องหรือในความแตกต่างของภาพยนตร์

แต่The Golden Circleสนุกมากกับสถานที่ตั้งและพิสูจน์แล้วว่าให้ความบันเทิงมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวอห์นกลับมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับเช่นกัน ในฐานะนักแสดงนำหลายคนที่กลับมาแสดงบทบาทของพวกเขา โดยรวมแล้วผมคิดว่าThe Kingsmanซีรีส์ (ในฐานะแฟรนไชส์ภาพยนตร์) มีศักยภาพมากมายที่จะขยายออกไปพร้อมกับภาคต่อและภาคต่อที่ใกล้เข้ามา….และฉันคิดว่าผู้ชมภาพยนตร์ก็อยากเห็นเช่นกัน

แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ฉันกลับมาพูดถึงเรื่องThe King’s Manภาพยนตร์สารคดีเรื่องที่สามในซีรีส์Kingsman และ ภาค ก่อนเรื่อง The Secret ServiceและThe Golden Circle อีกครั้ง ความสำเร็จของภาพยนตร์ Kingsman สองเรื่องได้รับการพิสูจน์แล้วว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะที่บ็อกซ์ออฟฟิศ เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนั้น เกือบจะเป็นบทสรุปที่ลืมไม่ลงว่าภาคที่ 3 ในแฟรนไชส์จะได้รับหน้าที่การว่าจ้างและให้ “เดินหน้า” โดยสตูดิโอในไม่ช้า ทว่าในขณะที่Kingsman 3อยู่ในการ์ด Vaughan

ยังคงเป็นหัวหอกของซีรีส์ตัดสินใจที่จะย้อนอดีตและให้รายละเอียดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของหน่วยงาน Kingsman ในรายการพรีเควล

ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง ถึงกระนั้น ด้วยวอห์นเป็นหัวหน้าและเมื่อมีการประกาศรายชื่อนักแสดง (เช่น Fiennes, Arteton, Hounsou, Ifans, Hollander เป็นต้น) ฉันสนใจที่จะเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่อง Kingsman ภาคก่อนนี้เป็นอย่างไร (แต่เดิมมีชื่อว่าKingsman: The Great Game). ไม่นานหลังจากที่แคมเปญการตลาดต่างๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ (ตัวอย่างภาพยนตร์ สปอตทีวี และโปรโมชัน) เริ่มปรากฏขึ้น

ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยในหน่วยงานลับ ฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในช่วงทศวรรษ 1900

• และบรรยายเหตุการณ์ในภาพยนตร์รอบสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่การจัดช่วงเวลาก็ไม่ปฏิเสธไม่ให้ฉันอยากดูภาพยนตร์เรื่องต่อไป และฉันก็ค่อนข้างตื่นเต้นที่จะได้เห็นชายของกษัตริย์เมื่อ มีกำหนดจะวางจำหน่ายในปลายปี 2562

น่าเสียดายที่วันเข้าฉายจริงของภาพยนตร์มีความล่าช้ามากมาย อันเนื่องมาจากการเข้าซื้อกิจการของ 20 th Century Fox ของดิสนีย์ (ซึ่งแฟรนไชส์ ​​Kingsman อยู่ภายใต้)

และเนื่องจากผลกระทบอย่างต่อเนื่องของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้มีวันเข้าฉายมากกว่าแปดวันจากฉากดั้งเดิมในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2019 จนถึง รอบสุดท้ายในวันที่ 22 ธันวาคม2021 )

ดังนั้น หลังจากช่วงวันหยุดเร่งรีบและต้นปีใหม่ 2022 ฉันก็ตัดสินใจไปดูThe King’s Man ฉันมีบทวิจารณ์ภาพยนตร์อื่นๆ สองสามเรื่องที่ฉันต้องทำให้เสร็จก่อนหน้าเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่รีวิวของฉันสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างล่าช้า ดังนั้น เมื่อทำเสร็จแล้ว

ฉันก็มีเวลาให้ความเห็นเกี่ยวกับการผจญภัยภาคก่อนของคิง ส์แมน . และฉันคิดอย่างไรกับมัน? ฉันชอบมัน

แม้ว่าฟีเจอร์จะมีข้อบกพร่องพอสมควร แต่The King’s Manก็เหมือนกับสองภาคก่อนๆ ที่สนุกมากๆ ในการเล่าเรื่องผ่านภาพยนต์แอคชั่นและนักแสดงที่ขี้เล่นและมีเสน่ห์ ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในซีรีส์ แต่ก็ยังมีการเล่นที่ไร้ความปราณีและแสดงออกในแนวการจารกรรมสายลับเพื่อสร้างคุณค่าความบันเทิงที่น่าดึงดูด

ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ oeuf-au-plat.com อัพเดตทุกสัปดาห์